คาร์บอนฟุตพรินต์

คาร์บอนฟุตพรินต์

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตั้งพระทัยมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผ่านการฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าและหัตถศิลป์พื้นถิ่นของไทย พระราชทานแนวพระดำริผ่านทาง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ไปขับเคลื่อนและขยายผลให้ช่างทอผ้า ผู้ประกอบการ OTOP ผ้าไทยทั้ง 76 จังหวัด ปรับเปลี่ยนการทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยการงดเว้นการใช้สีเคมี เลิกใช้เทคโนโลยีที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทรงสนับสนุนให้สมาชิกชุมชนทอผ้าปลูกต้นฝ้าย ปลูกต้นหม่อน เลี้ยงหนอนไหม และปลูกพืชพรรณที่ให้สีธรรมชาติในชุมชน เน้นการสร้างสรรค์ผืนผ้าและหัตถกรรมที่ทุกกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก หรือภาวะโลกร้อน ซึ่งก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการตลอดวัฏจักรชีวิต คือ คาร์บอนฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์ เริ่มจากการได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย การใช้งาน และการจัดการของเสียหลังจากการใช้งาน วัดปริมาณออกมาในรูปแบบของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
กระทรวงมหาดไทย เล็งเห็นความสำคัญของการวัดค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการผลิตผ้าไทยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้มาตรฐานสากล ที่กำหนดโดยกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ในการประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์ จากการผลิตสิ่งทอในระดับท้องถิ่น อันเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษอย่างครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ ไปจนถึงขั้นตอนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เนื่องจากภาคส่วนสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มทั่วโลกคิดเป็นสัดส่วนระหว่าง 6 – 8 เปอร์เซ็นต์ ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก และภารกิจนี้จะเป็นประโยชน์ทางด้านสังคมและเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสมาชิกชุมชนผู้ทอผ้ากว่า 2,000,000 คน ที่ทำงานผ่านกลุ่มทอผ้ากว่า 100,000 กลุ่ม ที่ถักทอผืนผ้าและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ จะได้รับประโยชน์จากการดำเนินการนี้
จึงเป็นที่มาของ “โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ภูมิปัญญาไทย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ที่มีภารกิจในการยกระดับการผลิตผ้าไทย ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการลงนาม MOU ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อสร้างความร่วมมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และผลักดันผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้ได้รับ “เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพรินต์” ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์นั้นมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับที่ต่ำที่สุด ช่วยให้ผ้าไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจจากผู้บริโภคให้แก่ผืนผ้าและผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน นับเป็นการเปลี่ยนผ่านภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมผ้าไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล
นอกจากนี้ “โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ภูมิปัญญาไทย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ยังมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน ให้มีความรู้ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก จากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์ผ้า และเพื่อสนองแนวพระดำริใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ได้พระราชทานแนวทางการใช้สีย้อมผ้าจากธรรมชาติในการย้อมผ้าไทย เพื่อลดมลภาวะต่อดิน น้ำ และอากาศ จากการใช้สีเคมี